ศึกฟุตบอล ยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย 2020 ที่ประเทศไทยรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ระหว่างวันที่ 8-26 ม.ค.63 โดยจะคัดเอาทีมที่อันดับดีที่สุด 1-3 ของทวีปเป็นตัวแทนไปแข่งขันโอลิมปิก 2020 รอบสุดท้ายที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ช่วง 23 ก.ค.- 8 ส.ค.63 การแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้าย มี 16 ทีม หลังจาก43 ทีมลงเล่นในรอบคัดเลือกกลุ่มจนได้ตัวแทน จากทั้งหมด 11 กลุ่ม พร้อมอันดับ 2 ที่ดีที่สุดอีก 4 ทีมประกอบไปด้วย
กาตาร์-แชมป์กลุ่ม เอ,บาห์เรน แชมป์กลุ่ม บี, อิรัก แชมป์กลุ่ม ซี, ยูเออี แชมป์ กลุ่ม ดี ,จอร์แดน แชมป์กลุ่ม อี ,อุซเบกิสถาน แชมป์ กลุ่ม เอฟ,เกาหลีเหนือ แชมป์ จี, เกาหลีใต้ แชมป์ กลุ่ม เอช,ญี่ปุ่น แชมป์กลุ่ม ไอ,จีน แชมป์ กลุ่ม เจ ,เวียดนาม แชมป์ กลุ่ม เค ส่วนอันดับ 2 ที่ดีที่สุดประกอบไปด้วย ออสเตรเลีย,อิหร่าน,ซีเรีย,ซาอุดิอาระเบีย ซึ่งผลการจับสลากรอบสุดท้ายเอเชียที่ออกมา
GROUP A : ไทย(เจ้าภาพ),อิรัก,ออสเตรเลีย,บาห์เรน
GROUP B : ญี่ปุ่น,กาตาร์,ซาอุดิอาระเบีย,ซีเรีย
GROUP C :เกาหลีใต้,อุซเบกิสถาน,จีน,อิหร่าน
GROUP D : เวียดนาม,เกาหลี,จอร์แดน,ยูเออี
ก่อนที่จะไปดูข้อมูลคู่แข่งทีม ยู-23 ทีมชาติไทย ในกลุ่มและโอกาสในรอบน็อคเอาท์ควรศึกษารูปแบบการแข่งขัน ยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย กันก่อนในบางรายละเอียด โดยเอเอฟซี กำหนดให้ใช้ผู้เล่นที่เกิดหลังวันที่ 1 ม.ค.2540 และทำไม? ญี่ปุ่นที่เป็นเจ้าภาพ อลป.รอบสุดท้ายถึงลงแข่งขัน เหตุที่ลงแข่งขันไม่เกี่ยวข้องกับโควตาที่จะได้รับแต่ที่แข่งขันเพราะเป็นรูปแบบการแข่งขันที่วางไว้ของเอเอฟซี แม้จะเป็นเหมือนทัวร์นาเมนต์การเตรียมทีมของญี่ปุ่น แต่ไนยะสำคัญฟุตบอลระดับเยาวชนทุกรายการของเอเอฟซี จะใช้ผลงานของการชิงแชมป์เอเชียแต่ละครั้งกำหนดค่าสัมประสิทธิ์ในการจับสลากครั้งๆต่อไป ทีมที่ผลงานดีก็จะถูกจัดเป็นทีมวางในปี 2022
ข้ามมาดูคู่แข่ง ยู-23 ทีมชาติไทยกันบ้างแม้จะเล่นในบ้านเราอาจจะคุ้นชินสนามสภาพอากาศแต่ข้อมูลคู่ต่อกรเราก็ควรต้องศึกษาไว้เพื่อจะได้รู้ทั้งเขาและเรายามเมื่อต้องลงสนามฟาดฟันแย่งโอกาสในการเดินทางไปแข่งขันโอลิมปิกรอบสุดท้าย ซึ่งก่อนหน้านี้ทีมชาติลูกหนังไทยเคยผ่านไปเล่นรอบสุดท้ายมาแล้ว 2 ครั้งในปี 1956 ประเทศออสเตรเลีย และ ปี 1968 ประเทศเม็กซิโก
บาห์เรน
เกมแรกทีมชาติไทยจะเปิดหัว กับบาห์เรน แชมป์กลุ่ม บี ในวันที่ 8 ม.ค.63 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน บาห์เรน มีกุนซือฝีมือดีชาวตูนีเซีย อย่าง ซาเมอร์ ชัมมัม คุมทัพสร้างรอยต่อในการคุมเยาวชนบาห์เรนตั้งแต่ลุยงาน ยู-19 ปี 2017 ต่อยอดมาจนถึงชุด ยู-23 ในปัจจุบัน บาห์เรน ชุดนี้ มีผู้เล่นที่ลงเล่นชุดใหญ่แล้ว 5 ราย พร้อมกับมีอีกบางส่วนที่ถูกเรียกไปติดชุดใหญ่แล้วยังไม่มีโอกาสในสนามอีก 3-4 ราย นักเตะที่ลงสนามให้ชุดใหญ่แล้วประกอบไปด้วย อาเหม็ด บูกรัมมา กองหลัง วัย 21 ปี ,ฮูเซียน จามิล กองหลังวัย 22 ปี,โมฮัมเหม็ด จาซิม กองกลางวัย 21 ปี ที่ค้าแข้งต่างแดนกับโบฮีเมียน(เช็กฯ),โมฮัมเหม็ด อัล ฮาร์ดาน กองกลางวัย 22 ปี สโมสรอัลกิไนกอส(กรีซ),ฮามัด อัลฃ ซามาน กองหลังวัย 22 ปี ล่าสุดบางส่วนในกลุ่มนี้มีชื่อติดทีมลุยศึกกัล์ฟ คัพ 2019 ที่กาตาร์ นอกจากนั้นยังมีการเตรียมทีมอุ่นเครื่องลงเล่นรายการใหญ่อย่างตูลง คัพ 2019 ที่ปรเทศฝรั่งเศส
ผลงานรอบคัดเลือกเอเชีย:ชนะ บังคลาเทศ 1-0 ,ชนะ ศรีลังกา 9-0 และ ชนะ ปาเลสไตน์ 2-0
ผลงานแมตซ์อุ่นเครื่อง:แพ้ เม็กซิโก 0-2 ,แพ้ จีน 1-4,แพ้ ไอร์แลนด์ 0-1 (รายการ ตูลง คัพ 2019 ฝรั่งเศส),แพ้ อิรัก 0-2,ชนะ อิรัก 1-0
ออสเตรเลีย
11 ม.ค.63 เกมที่สองของทีมชาติไทย จะลงพบกับ ออสเตรเลีย ยักษ์ใหญ่ของทวีปเอเชีย ทีมที่ผ่านเข้ารอบมาด้วยอันดับสองที่ดีที่สุดอันดับ 1 จาก 4 ทีม รอบคัดเลือกออสเตรเลียมีแต้มเท่ากับเกาหลีใต้ จ่าฝูงกลุ่ม เอช แต่ผลต่างประตูได้เสียเป็นรอง ออสเตรเลีย ชุดนี้ มี เกรแฮม อาร์โนด์ กุนซือวัย 56 ปี ชาวออสซี่คุมทัพ ซึ่งก็ควบจ็อบงานในทีมชุดใหญ่ควบคู่กันไปด้วย ที่ผ่านมาหลังจบศึกชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ออสเตรเลีย เตรียมการอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดทั้งการอุ่นเครื่องและเตรียมทีม ล่าสุดเพิ่งคว้าแชมป์ DAZU CUP 2019 ที่ประเทศจีน
ออสเตรเลีย ชุดนี้มีผู้เล่นจากชุดใหญ่ 2 ราย จากการเรียกมาสู่ทีมในศึกอุ่นเครื่องที่จีน 25 คน เป็นรายของ โธมัส เดง กองหลังวัย 22 ปี จากเมลเบิร์น วิคตอรี่ และ อเล็กซ์ เกิร์สบัช กองหลังวัย 22 ปี จากลีกเดนมาร์ก นอกจากนั้นยังมีนักเตะที่ค้าแข้งต่างแดนอีก 12 ราย ส่วนใหญ่มาจากลีกยุโรปทั้ง อังกฤษ,เดนมาร์ก,อิตาลี,กรีซ,ฮอลแลนด์ และ เยอรมัน
ผลงานรอบคัดเลือกเอเชีย:ชนะ กัมพูชา 6-0, ชนะ ไต้หวัน 6-0, เสมอ เกาหลีใต้ 2-2
ผลงานแมตซ์อุ่นเครื่อง: เสมอ นิวซีแลนด์ 1-1( 2เกม), แพ้ อิหร่าน 1-2, ชนะ จีน 5-1, ชนะ เกาหลีเหนือ 4-0, ชนะ ลิทัวเนีย 1-0
โอลิมปิกรอบสุดท้าย 7 สมัย 1956(เจ้าภาพ),1988, 1992, 1996, 2000(เจ้าภาพ), 2004, 2008
อิรัก
เกมนัดสุดท้ายของรอบแรกกลุ่ม เอ ขุนพลนักเตะ ยู-23 ไทย ลงสนามพบ อิรัก วันที่ 14 ม.ค.63 ยอดทีมจากตะวันออกกลางนับว่าน่าจับตามองที่สุดในกลุ่มนี้เพราะช่วงที่ผ่านมาทีมชาติอิรักชุดใหญ่ถ่ายสายเลือดผู้เล่นเป็นจำนวนมากทำให้นักเตะในกลุ่มอายุไม่เกิน 23 ปี ก้าวขึ้นไปติดทีมเป็นจำนวนมากพร้อมกับผลงานในทีมชุดใหญ่อิรักยังยอดเยี่ยมทันใช้งานในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ที่ผ่านมา อิรัก ยู-23 มี อับดุล กานี ซาอัด กุนซือวัย 51 ปี เป็นเฮดโค้ช ในศึกฟุตบอลกัล์ฟ คัพ 2019 ชเร็คโก คาตาเนค กุนซือชุดใหญ่ชาวสโลเวเนีย เรียกผู้เล่นอายุไม่เกิน 23 ปี ติดทีมไปถึง 9 ราย และยังมีอีก 8 รายที่ถูกเรียกไปใช้งานในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ในส่วนของรอบคัดเลือกยู -23 เอเชียที่ผ่านมา อิรัก ใช้บริหารนักเตะที่ค้าแข้งในลีกสวีเดน ถึง 3 ราย ประกอบไปด้วย รายาด โพเลส(สโมสรไซเรียนสกา เอฟซี), อาร์เมอร์ อัล อัมมารี่(สโมสรจองโคปิง) และ อิฮับ จารี(สโมสรไซเรียนสกา เอฟซี)
ผลงานรอบคัดเลือกเอเชีย:ชนะเยเมน 5-0,ชนะเติร์กเมนิสถาน 2-0,เสมอ อิหร่าน 0-0
ผลงานแมตซ์อุ่นเครื่อง:ชนะ กาตาร์ 1-0,ชนะ บาห์เรน 2-0,แพ้ บาห์เรน 0-1
โอลิมปิกรอบสุดท้าย 5 สมัย 1980,1984,1988,2004,2016
หากในรอบแรกทีมชาติไทย สามารถผ่านเข้ารอบด้วยการเป็นอันดับ 1 หรือ 2 ของกลุ่ม เอ รอบ 8 ทีมสุดท้าย หรือ รอบก่อนรองชนะเลิศจะต้องไปพบกับคู่แข่งในสาย บี อย่าง ญี่ปุ่น แชมป์ปี 2016 , กาตาร์ อันดับ 3 ปี 2018 ,ซาอุดิอาระเบีย รองแชมป์ปี 2013 และ ซีเรีย ซึ่งก็ต้องรอผลการแข่งขันว่าทีมไหน?จะเข้าเป็นอันดับ 1 หรือ 2 ของกลุ่ม บี โดยแมตซ์ทดสอบทีมของกลุ่มบีที่ผ่านมา ญี่ปุ่น เป็นทีมที่เตรียมความพร้อมอย่างต่อเนื่องทั้งเรื่องของการเก็บตัวในประเทศต่างแดนและอุ่นเครื่องต่างแดนอาทิรายการ ตูลง คัพ 2019 ที่ฝรั่งเศส ผลงาน ชนะ อังกฤษ 2-1,ชนะ ชิลี 6-1,แพ้ โปรตุเกส 0-1, ชนะจุดโทษ เม็กซิโก 5-4(2-2) และ แพ้ จุดโทษ บราซิล 4-5(1-1) หากผ่านรอบนี้ไปได้ในรอบรองชนะเลิศก็จะเล่นด้วยสภาพจิตใจที่ดีเยี่ยม
เหลือเวลาเตรียมทีมอีกประมาณ 1เดือน อากิระ นิชิโนะ กุนซือชาวญี่ปุ่นและทีมงานรวมไปถึงฝ่ายบริหารคงต้องทำการบ้านกันอย่างหนักทั้งเรื่องของการฟื้นสภาพร่างกายผู้เล่นจากซีเกมส์ 2019 และ การปรับโฉมทีมในช่วงเวลาที่เหลือเพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายเน้นรายการใหญ่ของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่คาดหวังกับโควตาโอลิมปิก 2020 จำนวน 3 ที่นั่งของทวีป หลังจากนี้คืองานละเอียดที่จะต้องเตรียมตัวให้พร้อมทั้งตัวเองและข้อมูลคู่แข่ง สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับแฟนบอลชาวไทยคือการให้กำลังใจกับทัวร์นาเมนต์ที่ทุกคนรออย่างใจจดใจจ่อที่จะเกิดขึ้นในระหว่าง 8-26 ม.ค.63 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ
สำหรับทีมที่ผ่านเข้าสู่โอลิมปิก 2020 รอบสุดท้ายไปแล้วตอนนี้มีจำนวน 9 ทีม จาก 16 ทีม ประกอบไปด้วย ญี่ปุ่น(เจ้าภาพ),ฝรั่งเศส,เยอรมัน,โรมันเนีย,สเปน,นิวซีแลนด์,อียิปต์,ไอเวอร์รี่โคส,แอฟริกาใต้ ซึ่งที่เหลืออีก 7 ทีมจะมาจาก ทวีปเอเชีย 3 ทีม ,อเมริกาใต้ 2 ทีม และ คอนคาเคฟ 2 ทีม