เมืองแมนเชสเตอร์กลายเป็นสีแดงหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หักปากกาเซียนด้วยการบุกไปเฉือนชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-1 โดย "ผีแดง" รัวสองประตูในครึ่งแรกจาก มาร์คัส แรชฟอร์ด และอ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ก่อนครึ่งหลังจะตั้งรับยันสกอร์จนคว้าสามแต้มสำคัญ ผลการแข่งขันของเกมนี้ทำให้เกิดผลกระทบกับการลุ้นแชมป์และการลุ้นท็อปโฟร์ เรามาจัดหนักประเด็นในศึกแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้กันเลย
1.เกมสวนกลับหยุดไม่อยู่
คงต้องบอกว่า โซลชา ค่อนข้างชอบเกมในลักษณะแบบนี้มาก เน้นเกมรับเป็นหลักและใช้ความเร็วของผู้เล่นแดนหน้าสวนกลับคู่แข่ง ช่วงครึ่งชั่วโมงแรก "เรือใบสีฟ้า" มีปัญหาในการรับมือเกมสวนกลับของ "ผีแดง" เป็นอย่างมาก แดเนียล เจมส์, เจสซี่ ลินการ์ด, อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล และมาร์คัส แรชฟอร์ด ต่างเคลื่อนที่กันสนุกและปั่นป่วนแนวรับแมนฯซิตี้จนหัวหมุน โดยเฉพาะ แรชฟอร์ด ที่วิ่งฉีกกองหลังแถมจ่ายคิลเลอร์พาสสวยๆหลายลูก ยังมีจังหวะยิง 2-3 ครั้งติดติดกันจนเจ้าตัวน่าจะได้แฮตทริกไปแล้ว เรื่องเกมสวนกลับตอนนี้ โซลชา ถือว่ามาถูกทางแล้วเหลือแค่เกมในลักษณะที่ต้องบุกใส่คู่แข่งทีมมักจะไปไม่เป็นทุกที คงต้องมีการปรับปรุงเกมบุกกันต่อไป
2.วีเออาร์เคลียร์ชัด?
เป็นอีกครั้งที่วีเออาร์มีส่วนสำคัญในการพลิกเกมโดยเฉพาะในครึ่งแรก การทำฟาวล์ของ แบร์นาโด้ ซิลวา ส่งผลให้ แมนฯซิตี้ ต้องเสียจุดโทษซึ่งเมื่อผู้ตัดสินเช็คภาพจากวีเออาร์แล้วก็ต้องบอกว่าเจ้าตัวเข้าบอลค่อนข้างโฉ่งฉ่าง มีส่วนทำให้ แรชฟอร์ด เสียหลักล้ม จังหวะนี้ถือว่าตัดสินถูกต้องชัดเจน
อย่างไรก็ตามยังมีอีกหนึ่งเหตุการณ์ปัญหาเมื่อ เฟร็ด ล้มตัวบล็อกลูกครอสและบอลไปโดนแขนออกหลัง จังหวะนี้ผู้เล่นแมนฯซิตี้ต่างวิ่งกรูมาเพื่อประท้วงผู้ตัดสินที่ให้แค่ลูกเตะมุม โดยพวกเขามองว่าแขนของเฟร็ดขวางทางการครอสบอลเข้าเขตโทษ ทว่าผู้ตัดสินมองว่า มิดฟิลด์บราซิลเลี่ยน แสดงเจตนาที่จะเก็บแขนก่อนพุ่งสไลด์ จะเห็นว่าแขนไม่ได้กางออกมาแบบผิดธรรมชาติ นั่นทำให้ ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ ปล่อยผ่านเหตุการณ์นี้ไป แฟนบอลว่าจังหวะนี้สมควรเป็นจุดโทษหรือไม่?
3.วาน-บิสซาก้าเอาอยู่
ก่อนเกมนี้หลายคนคงจับตามองการปะทะกันของสองนักเตะอย่าง อารอน วาน-บิสซาก้า และราฮีม สเตอร์ลิ่ง ซึ่งต้องดวลกันตามตำแหน่ง โดยตอนต้นเกมมีจังหวะหนึ่งที่ สเตอร์ลิ่ง กระชากหนี วาน-บิสซาก้า จนเสียเชิงและทีมเกือบเสียประตู เห็นจังหวะนี้เชื่อว่าแฟนผีแดงคงกังวลไม่น้อยเพราะสเตอร์ลิ่งเป็นปีกที่กองหลังหลายคนรับมือยากมาก
ทว่าหลังจากนั้นทั้งเกม วาน-บิสซาก้า สามารถตามประกบได้แบบอยู่หมัด มีจังหวะหนึ่งที่ ปีกทีมชาติอังกฤษวัย 24 ปีกระชากหนีเข้ากลางจนจนมีช่องจะยิงทว่า อดีตแบ็กขวาพาเลซ ตามประกบเป็นเงาและจิ้มบอลออกหลังไปได้แบบสุดยอด สุดท้ายเป็นเกมที่ สเตอร์ลิ่ง เล่นไม่ออก ส่วน วาน-บิสซาก้า โชว์แท็กเกิ้ลสำเร็จถึง 5 ครั้งถือเป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญที่ทำให้ แมนฯยูไนเต็ด ปราบทีมร่วมเมือง
4.เรือใบกับการลุ้นแชมป์-ผีกลับเส้นทาง
สถานการณ์การลุ้นแชมป์ในตอนนี้ แมนฯซิตี้ แทบจะหมดสิทธิ์ในการป้องกันแชมป์อีกสมัยแล้วหลังตกเป็นฝ่ายตามหลัง "หงส์แดง" ถึง 14 แต้มด้วยกัน ต้องบอกว่าอาการบาดเจ็บของนักเตะมีส่วนสำคัญที่ทำให้ "เรือใบสีฟ้า" จ่อพลาดแชมป์ในฤดูกาลนี้ เอมเมอริค ลาป๊อร์ก กองหลังตัวหลักบาดเจ็บยาว ส่วนเกมสำคัญอย่างดาร์บี้แมตช์นี้ก็ดันขาดตัวทำสกอร์อย่าง เซร์คิโอ อเกวโร่ ไปอีก ตอนนี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คงต้องประคองผลงานในลีกและหันมาเน้นฟุตบอลถ้วยเป็นหลักซึ่งก็ต้องมารอดูกันว่าพวกเขาจะไปได้ไกลถึงแชมป์หรือไม่โดยเฉพาะรายการ ชปล. ซึ่งเป็นถ้วยที่กุนซืออยากได้
ด้าน แมนฯยูไนเต็ด หลังจากที่ช่วงต้นฤดูกาลดูเหมือนจะห่างไกลสำหรับการลุ้นพื้นที่ยุโรปในฤดูกาลนี้ ทว่าหลังจากเก็บชัยชนะในเกมใหญ่ทั้งสองนัดหลังสุด พวกเขาก็มีคะแนนห่างจากท็อปโฟร์แค่ 5 แต้มเท่านั้นเนื่องจาก เชลซี ดันพลาดท่า 3 จาก 4 นัดหลังสุด นี่จะเป็นบทพิสูจน์ของ โซลชา ว่าจะพาทีมทำผลงานได้คงเส้นคงวาหรือไม่ มารอดูกันว่าหลังจากช่วงปีใหม่ "ผีแดง" จะมียังมีลุ้นโซนยุโรปอยู่ไหม
5.น้าโอเล่ชอบทีมใหญ่
เล็กๆไม่...ใหญ่ๆชอบจริงๆสำหรับ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เพราะเมื่อดูจากสถิติแล้วต้องบอกว่าเขายังไม่แพ้ทีมจากท็อป 6 เลยในฤดูกาลนี้ โดยแข่งทั้งหมด 6 ครั้งในทุกรายการ โซลชา สามารถพาลูกทีมเก็บชัยชนะเหนือทีมท็อป 6 ได้ถึง 4 ครั้ง และเสมออีก 2 นัด ซึ่งหนึ่งในเกมที่เสมอก็คือการเจ๊าจ่าฝูงอย่าง ลิเวอร์พูล ด้วย และถ้าหากนับรวมทีมลุ้นแชมป์อย่าง เลสเตอร์ ซิตี้ เข้าไปด้วยจะทำให้เขาชนะถึง 5 จาก 7 นัด
แมนฯยูไนเต็ด 4-0 เชลซี
แมนฯยูไนเต็ด 1-0 เลสเตอร์ ซิตี้
แมนฯยูไนเต็ด 1-1 อาร์เซน่อล
แมนฯยูไนเต็ด 1-1 ลิเวอร์พูล
เชลซี 1-2 แมนฯยูไนเต็ด
แมนฯยูไนเต็ด 2-1 สเปอร์ส
แมนฯซิตี้ 1-2 แมนฯยูไนเต็ด