"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ทีมจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก ยังคงเดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคงและแข็งแกร่ง หลังเปิดรัง แอนฟิลด์ พิชิต วัตฟอร์ด ทีมบ๊วย 2-0 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา แม้เป็นเกมที่แอบลุ้นเหนื่อยเหมือนกัน แต่สุดท้ายลูกทีมของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็สามารถเก็บสามแต้มเพิ่มได้ตามเป้า ก่อนเดินทางไปสู้ศึก ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2019 ที่ประเทศกาตาร์ ช่วงกลางสัปดาห์หน้า และนี่คือ 5 ประเด็นที่ได้จากแมตช์นี้
- ยากเกินคาด
เป็นเกมที่ ลิเวอร์พูล เล่นไม่ได้ท็อปฟอร์ม ซึ่งนั่นก็อาจจะเป็นเพราะมีการโรเตชั่นนักเตะ บวกกับการปรับมาใช้แผนการเล่น 4-2-3-1 ซึ่งดูไม่ค่อยจะไหลลื่นนัก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องยกความดีความชอบให้กับ วัตฟอร์ด ภายใต้การนำทัพของกุนซือคนใหม่อย่าง ไนเจล เพียร์สัน ด้วย ที่สู้ได้ดี และมีโอกาสสร้างความหวาดเสียวในหลายๆ จังหวะ แค่จบสกอร์กันไม่คมเองเท่านั้น ซึ่งนั่นก็รวมถึงจังหวะยิงแป้กของ อับดูลาย ดูกูเร่ และ อิสไมล่า ซาร์ ในช่วงครึ่งแรกด้วย
- ซาลาห์ คืนความมั่นใจ
หลังจากที่ทำประตูได้แค่ลูกเดียวตลอดช่วงเดือนพฤศจิกายน แต่ 3 เกมที่ลงเล่นมาในเดือนนี้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดาวยิงเลือดอียิปต์ มีสกอร์ทุกนัด แถมกดรวมถึง 4 ประตู ซึ่งเหมือนเป็นการแสดงให้เห็นว่า เจ้าตัวกลับมามีความมั่นใจในตัวเองอีกครั้ง โดยเฉพาะการทำประตู และที่น่าทึ่งคือ 3 ประตูหลังสุด มาจากการยิงด้วยเท้าขวาทั้งหมด!!! แถมแต่ละลูก ยิงไม่ใช่ง่ายๆ ด้วย (แต่ลูกง่ายๆ ดันยิงไม่ค่อยได้)
- กดไลค์ให้ อลีสซง กับ โกเมซ
ซาลาห์ อาจจะเป็นคนจบสกอร์พา ลิเวอร์พูล คว้าชัย ขณะที่ ซาดิโอ มาเน่ ก็ยังคงเล่นได้อันตรายเหมือนเดิม จากการที่มี 1 แอสซิสต์ และมีส่วนสำคัญในประตูที่สอง แถมเกือบทำสกอร์เองจากลูกโหม่งสุดสวยด้วย (เสียดายที่เป็นลูกล้ำหน้า) แต่ต้องไม่ลืมว่า อลีสซง เบ็คเกอร์ นายทวารเลือดแซมบ้า ก็มีส่วนช่วยไม่น้อยกับชัยชนะครั้งนี้ โดยเฉพาะจังหวะป้องกันลูกยิงของ อิสไมล่า ซาร์ และ เคราร์ด เดวโลเฟว ช่วงครึ่งหลัง ขณะที่ โจ โกเมซ กองหลังเลือดผู้ดี ที่เกมนี้ได้สตาร์ตเป็นตัวจริง ก็ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ เพราะช่วยเกมรับได้เยอะมาก จึงไม่แปลกใจที่เกมนี้เจ้าตัวมีสถิติชนะในการดวลลูกลางอากาศ 7 ครั้ง และแท็กเกิ้ลชนะ 3 หน ซึ่งโดดเด่นกว่า เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ด้วยซ้ำ
- คลีนชีตมาเรื่อยๆ
อย่างที่รู้ๆ กันว่า ฤดูกาลนี้เป็นฤดูกาลที่ ลิเวอร์พูล เสียประตูเกือบทุกเกม และก่อนหน้านี้ก็เคยเสียประตูถึง 13 นัดติด ทว่า 3 เกมหลังสุดพวกเขาเก็บคลีนชีตได้รวด (ชนะ บอร์นมัธ 3-0, เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก 2-0 และ วัตฟอร์ด 2-0) แม้ทั้ง 3 เกมไม่ใช่การเจอคู่แข่งที่หินมากมายอะไร แต่อย่างน้อยก็เป็นการส่งสัญญาณเชิงบวกให้สาวก "เดอะ ค็อป" ได้ชื่้นใจว่า เกมรับของทีมยังคงพอไว้ใจได้ แม้มีปัญหาเรื่องผู้เล่นบาดเจ็บก็ตาม
- คุมสถานการณ์ก่อนลุยสโมสรโลก
หรือซาลาห์จะถนัดขวา?! 5ประเด็นหลังเกมลิเวอร์พูลปราบวัตฟอร์ด
เป็นอีกหนึ่งชัยชนะที่สำคัญมาก เพราะนอกจากเก็บสามแต้มได้แล้ว ผลการแข่งขันของ เลสเตอร์ ซิตี้ (ทำได้แค่เปิดบ้านเสมอ นอริช ซิตี้ 1-1) ยังเป็นใจด้วย ซึ่งนั่นหมายความว่า ช่องว่างระหว่าง "หงส์แดง" กับ "จิ้งจอกสีน้ำเงิน" ตอนนี้ ถูกยืดจากเดิม 8 เป็น 10 แต้มแล้ว ทำให้บรรดานักเตะและกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ สามารถเปลี่ยนโหมด หันไปลุยศึก ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2019 ที่ประเทศกาตาร์ ได้อย่างเต็มที่และมีความมั่นใจ ทว่าน่าเสียดายแทน จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม ที่ส่อแววอดเดินทางไป กาตาร์ เพราะดันเจ็บกล้ามเนื้อหลังต้นขาจากเกมเมื่อคืน
- Subinho -