ดีลล่าตัว บรูโน่ แฟร์นันด์ส กองกลางกัปตันทีม สปอร์ติ้ง ลิสบอน ยังไม่เสร็จสิ้นด้วยดีเลย แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ต้องมาเจอปัญหาชวนปวดหัวอันใหม่ หลังจากที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีมของพวกเขาออกมายอมรับเองว่า มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าคนสำคัญของทีม จะต้องพักอย่างน้อย 6 สัปดาห์ หลังมีอาการกระดูกร้าวตรงบริเวณหลัง ซึ่งสื่อหลายรายก็คาดกันว่าในกรณีที่เลวร้ายที่สุดนั้น เขาก็อาจจะต้องพักสูงสุด 3 เดือนด้วยกัน
เรื่องดังกล่าวถือเป็นข่าวร้ายอย่างมากของ แมนฯ ยูไนเต็ด เพราะในฤดูกาลนี้ แรชฟอร์ด ถือเป็นหัวหอกตัวความหวังเบอร์ 1 ของทีม หลังจากเขาเป็นดาวซัลโวสูงสุดประจำทัพ "ปีศาจแดง" ด้วยการทำไปได้ 19 ประตูจากการลงเล่นในทุกรายการ ซึ่ง โซลชา ก็ออกมายอมรับเองว่าอาการเดี้ยงของ แรชฟอร์ด อาจจะทำให้ทีมของตนต้องดึงกองหน้ามาร่วมทีมในตลาดซื้อ-ขายนักเตะรอบสอง
ทั้งนี้ หนึ่งในกองหน้าที่มีข่าวกับ แมนฯ ยูไนเต็ด มากที่สุดคือ เอดินสัน คาวานี่ หัวหอก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง หลังจากทีตอนนี้ คาวานี่ ก็ส่อแววหมดอนาคตกับ "เปแอสเช" ไปเป็นที่เรียบร้อย เพราะในซีซั่นนี้เพิ่งได้ลงเล่นไปเพียง 14 นัดในทุกรายการ อย่างไรก็ตาม มันก็ดูเป็นดีลที่เป็นไปได้ยากพอตัว เมื่อพิจารณาถึงเรื่องที่ว่า คาวานี่ เป็นเป้าหมายของ แอตเลติโก มาดริด กับ เชลซี อยู่ด้วย ซึ่งทั้ง 2 ทีมดังกล่าวต่างก็เป็นทีมที่ดูมีสถานการณ์โดยรวมดีกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยเหตุนี้ เราจึงจะมาลองดูกันว่ามีกองหน้าตัวเลือกอื่นๆ คนไหนบ้าง ที่อาจจะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาแดนหน้าของ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้
- เฟร์นานโด ยอเรนเต้ (นาโปลี)
ที่จริง ยอเรนเต้ ก็มีข่าวกับ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างหนักในช่วงก่อนเปิดฤดูกาล 2019-20 อยู่แล้ว หลังจากตอนนั้นหัวหอกชาวสแปนิชกำลังเป็นนักเตะไร้สังกัดเพราะแยกทางกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ตอนจบซีซั่น 2018-19 ก่อนที่สุดท้ายแข้งวัย 34 ปี จะไปเซ็นสัญญากับ นาโปลี
ถึงแม้ว่าในฤดูกาลนี้ ยอเรนเต้ จะได้ลงเล่นในลีกไป 16 นัด จนดูเป็นตัวเลขที่เยอะ แต่ที่จริงแล้วในจำนวนนั้นเป็นการลงสนามในฐานะตัวจริงเพียง 3 หนเท่านั้น แถมถ้านับเป็นจำนวนนาทีที่เขาได้อยู่ในสนามก็อยู่ที่เพียง 490 นาที ขณะที่ด้านผลงานส่วนตัวนั้น เขาทำประตูในลีกไปแล้ว 3 ลูก โดยเขามักจะถูกเปลี่ยนลงไปเล่นในช่วงราว 30 นาทีสุดท้ายอยู่เกือบทุกเกม
นั่นหมายความว่า ยอเรนเต้ ไม่ได้ถึงขั้นเป็นกำลังหลักของ นาโปลี ทำให้มันมีโอกาสที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะเจรจาขอดึงแข้งจอมเก๋ามาเป็นตัวเลือกให้ทีมในช่วงเวลาที่ แรชฟอร์ด กำลังพักรักษาตัวได้ ซึ่งการที่เขามีประสบการณ์ใน พรีเมียร์ลีก อยู่แล้วมันก็ทำให้เขาไม่น่าจะต้องใช้เวลาปรับตัวกับการเล่นใน พรีเมียร์ลีก แต่อย่างใด
- อิสลาม สลิมานี่ (เลสเตอร์ ซิตี้ ปัจจุบันเล่นกับ อาแอส โมนาโก ด้วยสัญญายืมตัว)
หลังจากโชว์ฟอร์มได้โดดเด่นกับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ในฤดูกาล 2015-16 ด้วยการทำไป 31 ประตู จากการลงเล่น 44 นัดในทุกรายการ สลิมานี่ ก็ได้ย้ายมาอยู่กับ เลสเตอร์ ในช่วงซัมเมอร์ ปี 2016 แต่เขาก็ไม่ประสบความสำเร็จกับ "สุนัขจิ้งจอก" เท่าไหร่ จนโดนปล่อยไปเล่นแบบยืมตัวกับทีมอื่นมา 3 ซีซั่นติดต่อกันแล้ว ประกอบด้วยกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2017-18, เฟเนร์บาห์เช่ ในซีซั่น 2018-19 และ โมนาโก ในซีซั่นนี้
ทั้งนี้ ในฤดูกาลนี้ดาวเตะชาวแอลจีเรียเหมือนจะหาฟอร์มเก่งของตัวเองเจออีกครั้ง หลังจากทำประตูในลีกไปได้ 7 ลูก จากการลงเล่น 13 นัด โดยเขายังเล่นลูกกลางอากาศได้โดดเด่นในระดับหนึ่งด้วย หลังจากชนะการดวลลูกกลางอากาศเฉลี่ยแล้ว 2.7 ครั้งต่อเกม ซึ่งขุมกำลังในปัจจุบันของ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ขาดแดนหน้าที่เล่นลูกกลางอากาศได้ดีอยู่
ถึงแม้ว่า เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีม เลสเตอร์ จะเคยประกาศชัดว่าไม่คิดปล่อยใครออกจากทีมในช่วงเดือนมกราคมนี้ แต่รายของ สลิมานี่ ไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมของ ร็อดเจอร์ส จนโดนปล่อยไปเล่นแบบยืมตัวตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ทำให้ถ้าเกิด แมนฯ ยูไนเต็ด ทาบทามแข้งวัย 31 ปีจริงๆ มันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร อุปสรรคเพียงอย่างเดียวของพวกเขาคงจะเป็นการที่มีข่าวลือว่า ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ก็กำลังแอบเหล่ สลิมานี่ อยู่เหมือนกันมากกว่า
- ปาโก้ อัลกาเซร์ (โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์)
หลังเคยล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงกับ บาร์เซโลน่า อัลกาเซร์ ก็เหมือนจะได้เกิดใหม่ในตอนที่ย้ายมาอยู่กับ ดอร์ทมุนด์ ด้วยสัญญายืมตัวเมื่อซีซั่นที่แล้ว เพราะเขาทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำจนทำให้ "เสือเหลือง" ตัดสินใจซื้อขาดเขาตั้งแต่ก่อนจบฤดูกาลด้วยซ้ำ ก่อนที่ในซีซั่น 2018-19 ดาวเตะชาวสแปนิชจะทำประตูในลีกได้ 18 ลูก จากการลงเล่น 26 นัด
อย่างไรก็ตาม ซีซั่นนี้ อัลกาเซร์ กลับมาเป็นเพียงอะไหล่ของทีมอีกครั้ง หลังจากเพิ่งได้ลงเล่นในลีกไป 11 เกม และเป็นในฐานะตัวจริง 6 นัด พร้อมกับทำได้ 5 ประตู แถมครั้งสุดท้ายที่เขาได้เป็นตัวจริงในลีกก็ต้องย้อนไปถึงเกมกับ พาเดอร์บอน เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ที่ผ่านมานู่นเลย
ยิ่งไปกว่านั้น โอกาสที่ อัลกาเซร์ จะได้ลงเล่นมันก็ริบหรี่ลงไปอีก หลังจากที่ ดอร์ทมุนด์ คว้าตัว เออร์ลิง เบราต์ ฮาแลนด์ หัวหอกดาวรุ่งชาวนอร์เวย์มาร่วมทัพ แถม ฮาแลนด์ ก็เปิดตัวซะสวยหรูด้วยการทำแฮตทริกทั้งที่ลงเล่นเป็นตัวสำรองอีกต่างหาก
แม้ว่า ดอร์ทมุนด์ จะยังอยู่ในเส้นทางของศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่โอกาสที่ อัลกาเซร์ จะได้โชว์ฝีเท้ากับทีมในศึกชิงถ้วย "บิ๊กเอียร์" มันก็ไม่ได้เยอะเท่าไหร่ ขนาดในรอบแบ่งกลุ่มเขายังได้ลงเล่นไปเพียง 2 นัดเท่านั้น ทำให้มันมีข่าวว่าเจ้าตัวอาจจะย้ายทีมอีกครั้งในตลาดช่วงหน้าหนาว ด้วยเหตุนี้ แข้งวัย 26 ปี จึงเป็นอ็อปชั่นที่ดูน่าสนใจสำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด แถมพอที่จะมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นด้วย ถ้าพวกเขาจริงจังในการล่าตัว อัลกาเซร์