เกมพรีเมียร์ลีก นัดที่ 25 ลงเล่นในสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งถือว่ามี บิ๊กแมตช์ สองคู่ให้เราได้ติดตามกัน ทั้ง เลสเตอร์ ปะทะ เชลซี และ สเปอร์ส พบ แมนฯ ซิตี้ โดยความน่าสนใจแต่ละเกมจะมีอะไรบ้างเราไปดูกันได้เลย
"เลสเตอร์-เชลซี"
การพบกันของทีมอันดับ 3 และ 4 ของตาราง โดย เลสเตอร์ มีแต้มนำ เชลซี ถึง 8 คะแนน
เดอะ ฟ็อกซ์ ไม่แพ้ต่อ สิงห์บลูส์ ในการเจอกัน 4 นัดหลังสุด (ชนะ 1 เสมอ 3) ซึ่งเป็นสถิติดีที่สุดนับตั้งแต่ไม่แพ้ต่อ เชลซี 5 นัดระหว่างปี 1999 - 2001
อย่างไรก็ตาม เชลซี เอาชนะที่บ้านของ เลสเตอร์ ได้ถึง 5 นัดจากการออกไปเยือน 7 เกมหลังสุด (เสมอ1 แพ้1) และไม่มีทีมไหนบุกเอาชนะที่สนาม คิง เพาเวอร์ ได้มากกว่า 4 นัดเลย
เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ยังไม่เคยคุมทีมเอาชนะ เชลซี 13 เกมก่อนหน้านี้จบลงด้วยผลเสมอ 7 นัด และ แพ้ไป 6 นัด
"ลิเวอร์พูล-เซาธ์แฮมป์ตัน"
ลิเวอร์พูล วางเป้าหมายจะคว้าชัยชนะเป็นเกมที่ 16 ติดต่อกัน โดยตอนนี้พวกเขามีแต้มห่างจาก แมนฯ ซิตี้ ทีมอันดับ 2 ถึง 19 คะแนน
"หงส์แดง" เอาชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน ได้ตลอด 5 เกมหลังสุด โดยยิงได้ 13 ประตู และเสียไปแค่ 2 ลูกเท่านั้น
"ทีมนักบุญ" มีผลงานเกมเยือนดีเอามากๆ เมื่อเอาชนะเกมนอกบ้านได้มาแล้ว 4 เกมติด ซึ่งมีครั้งเดียวเท่านั้นที่พวกเขาเอาชนะเกมเยือน 5 นัดติดซึ่งก็ต้องย้อนไปเมื่อระหว่างเดือนเมษายน ถึง สิงหาคม ปี 2011 ที่ตอนนั้นยังเล่นใน ลีก วัน ต่อเนื่องด้วย แชมเปี้ยนชิพ
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ มีส่วนร่วมกับประตู 6 ลูกจาก 5 นัดในการเจอกับ เซาธ์แฮมป์ตัน ในลีก อีกทั้งยังยิงไป 3 ประตูจาก 2 เกมที่สนาม แอนฟิลด์
แดนนี่ อิงส์ จะเป็นอดีตผู้เล่น หงส์แดงคนที่ 3 ต่อจาก ดีน ซอนเดอร์ส และ จอนโจ้ เชลวี่ย์ ที่ทำประตูได้ทั้งเกม เหย้า-เยือน ในการเจอกับ ลิเวอร์พูล ในพรีเมียร์ลีก ซีซั่นเดียว
"แมนฯ ยูไนเต็ด-วูล์ฟส์"
น่าสนใจว่า บรูโน่ แฟร์นันด์ส แข้งคนใหม่ของ ปีศาจแดง จะลงสนามเกมนี้เลยหรือไม่?
นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 1980 ที่แพ้คาบ้าน 0-1 แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ไม่แพ้ วูล์ฟส์ ในบ้านมาแล้ว 11 เกมจากทุกรายการ (ชนะ 9 เสมอ 2)
เมื่อถึงเดือนกุมภาพันธ์ นับว่าผลงานในบ้านของ แมนยู ผลงานดีสุดๆ พวกเขาแพ้แค่ 2 นัดจาก 60 เกมที่เล่นเกมลีกใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด (ชนะ42 เสมอ16) โดย 2 เกมที่แพ้นั้นคือ พ่ายต่อ มิดเดิลสโบรส์ เมื่อปี 2004 และ แมนฯ ซิตี้ เมื่อปี 2008
ราอูล ฮิเมเนซ มีส่วนร่วมกับประตูไป 20 ลูกจาก 22 นัดหลังสุดในทุกรายการ โดยยิงได้ 12 และแอสซิสต์ 8 ครั้ง
มีแค่ มาร์คัส แรชฟอร์ด เท่านั้น(13ประตู) ที่ยิงใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด ทุกรายการในซีซั่นนั้นได้มากกว่า เมสัน กรีนวู้ด ที่ยิงไป 8 ประตู จากโอกาสยิงเข้ากรอบ 14 ครั้ง
"เบิร์นลี่ย์-อาร์เซน่อล"
เบิร์นลี่ย์ โดน อาร์เซน่อล เล่นงานเสมอเมื่อเจอกัน โดยพวกเขาแพ้ ปืนใหญ่ ต่อเนื่องมาแล้ว 11 นัดติดต่อกันนับตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2010
เดอะ คลาเล็ตส์ ไม่เคยขึ้นนำ อาร์เซน่อล เลยสักครั้งในการเจอกัน 11 นัด
ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง ยิงใส่ เบิร์นลี่ย์ 7 ประตู จากการลงเล่น 4 นัด โดยมีค่าเฉลี่ยยิงทีมนี้ได้ทุกๆ 51 นาที
อาร์เซน่อล ไม่แพ้เกมนอกบ้านมา 6 เกม(ชนะ1 เสมอ5) โดยเสมอมาแล้ว 4 เกมติดต่อกัน ซึ่งพวกเขาไม่เคยเสมอเกมนอกบ้าน 5 เกมติดเลย นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 1948
"สเปอร์ส-แมนฯ ซิตี้"
สเปอร์ส ไร้ชัยชนะ 6 เกมหลังที่เจอกับ แมนฯ ซิตี้(เสมอ2 แพ้4) นับตั้งแต่เอาชนะที่ ไวท์ ฮาร์ท เลน เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2016
16 เกมภายใต้การคุมทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ เดเล่ อัลลี มีส่วนร่วมกับประตูไป 9 ลูก จากทุกรายการ (6 ประตู 3 แอสซิสต์)
แมนฯ ซิตี้ เอาชนะได้ตลอด 5 เกมที่บุกเยือนทีมในแถบ ลอนดอน เหนือ (อาร์เซน่อล และ สเปอร์ส) ซึ่งเทียบเท่ากับก่อนหน้านี้ 40 นัดที่เอาชนะได้ 5 นัด เสมอ10 และแพ้ 25 รวมทั้งไม่มีทีมไหนอีกแล้วที่ชนะได้ 6 เกมติดในการออกไปเยือนทั้ง ปืนใหญ่ และ ไก่เดือยทอง
ลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ทำประตูได้ตลอด 23 เกมหลังในการเล่นเป็นทีมเยือน นับตั้งแต่ยิงประตูไม่ได้ในเกม แพ้ เชลซี 0-2 เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2018 มีแค่ อาร์เซน่อล (27 นัด) และ แมนฯ ยูไนเต็ด (24 นัด) ที่ยิงเกมเยือนได้มากกว่า