เป็นที่ทราบกันว่า ติโม่ แวร์เนอร์ กองหน้าดาวดังของ แอร์เบ ไลป์ซิก กำลังมีข่าวได้รับความสนใจจากหลายสโมสรยักษ์ใหญ่ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยที่ ลิเวอร์พูล ภายใต้การนำทัพของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ถูกยกให้เป็นเต็งหนึ่งในการได้ตัวแข้งเนื้อหอมรายนี้ไปครอบครอง กระนั้นทุกคนรู้ดีว่า การแข่งขันในศึก พรีเมียร์ลีก หินกว่า บุนเดสลีกา เยอรมัน มาก ซึ่งก็น่าคิดเหมือนกันว่า แวร์เนอร์ จะสามารถแจ้งเกิดในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีได้หรือไม่ หากได้ย้ายมาจริงๆ เพราะตลอดช่วงที่ผ่านมา มีดาวยิงระดับโลกมากมายที่เอาชื่อของตัวเองมาในทิ้งในเวที พรีเมียร์ลีก และนี่คือ 11 เคสที่เด่นๆ (อ้างอิงจาก The Sun)
- ดีเอโก้ ฟอร์ลัน (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2002-2004)
ถูกจับตามองและมีชื่อเสียงอยู่พอสมควรตอนย้ายมาจาก อินดีเปนเดียนเต้ แต่... ฟอร์ลัน ต้องใช้เวลาถึง 34 เกม กว่าจะทำประตูแรกบนแผ่นดินอังกฤษได้ และบทสรุปกับ "ปีศาจแดง" นั้น เขาลงเล่นไปทั้งสิ้น 98 นัด ทำได้ 17 ประตู ก่อนย้ายออกไปยิงระเบิดเทิดเถิงที่ สเปน กับ บียาร์เรอัล และ แอตเลติโก มาดริด
- เฟร์นานโด มอริเอนเตส (ลิเวอร์พูล 2005-2006)
ถือเป็นกองหน้าระดับท็อปของยุโรป ณ เวลานั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลงานอันโดดเด่นในฤดูกาล 2003/04 ที่เล่นให้กับ อาแอส โมนาโก แบบสัญญายืมตัว (ทำ 22 ประตู จากการลงเล่นรวมทุกรายการ 42 นัด) โดย ลิเวอร์พูล จัดการคว้าตัว "เอล มอโร่" มาจาก เรอัล มาดริด เมื่อช่วงเดือนมกราคมปี 2005 และสุดท้ายเจ้าตัวไปไม่รอดในเวที พรีเมียร์ลีก หลังทำได้แค่ 8 ประตู จากการลงเล่น 41 นัด ก่อนย้ายกลับสเปนไปอยู่กับ บาเลนเซีย
- เอร์นาน เครสโป (เชลซี 2003-2008)
เครสโป ในเวลานั้นคือกองหน้าระดับหัวแถวของโลก ซึ่งถือเป็นดีลที่สร้างความฮือฮาได้ไม่น้อยที่ เชลซี สามารถคว้าเจ้าตัวมาจาก อินเตอร์ มิลาน เมื่อปี 2003 แต่ถึงกระนั้นยอดดาวยิงชาวอาร์เจนไตน์ ทำได้แค่ 12 ประตู จาก 31 เกมในฤดูกาลแรก ก่อนถูกปล่อยตัวให้ เอซี มิลาน ยืมใช้งานในฤดูกาลต่อมา และถึงแม้กลับมาเล่นให้ "สิงห์บลูส์" อีกครั้งในซีซั่น 2005/06 แต่ก็ยังไม่เวิร์ค (ทำ 13 ประตู จาก 42 เกม) ก่อนถูกปล่อยตัวกลับไปให้ อินเตอร์ ยืมใช้งาน 2 ฤดูกาล และขายขาดในปี 2008
- อันเดร เชฟเชนโก้ (เชลซี 2006-2009)
เจ้าของรางวัล บัลลงดอร์ ประจำปี 2004 ย้ายเข้าสู่ถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในช่วงพีกพอดี หลังประสบความสำเร็จอย่างสูงกับ เอซี มิลาน แต่กลับดับสนิทในเวที พรีเมียร์ลีก โดย "เชว่า" ทำได้แค่ 9 ประตูเท่านั้น จากการลงเล่นเกมลีก 48 นัด (ฤดูกาล 2008/09 ถูกปล่อยตัวให้ มิลาน ยืมใช้งาน) ก่อนคัมแบ็กสู่ ดินาโม เคียฟ ต้นสังกัดแรกในชีวิตการค้าแข้ง
- โรบินโญ่ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2008-2010)
ถือเป็นอีกหนึ่งดีลสุดช็อกในวันปิดตลาดซื้อ-ขายนักเตะช่วงซัมเมอร์ โดย โรบินโญ่ ย้ายมาจาก เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัว 32.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1267.5 ล้านบาท) ซึ่งถือว่าสูงมากๆ ณ เวลานั้น และถึงแม้ทำได้ดีในช่วงแรกๆ ทว่าสุดท้ายเจ้าตัวฝากผลงานในเกม พรีเมียร์ลีก ได้แค่ 14 ประตู จากการลงเล่น 41 นัด ก่อนย้ายไปวาดลวดลายในเวที กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี กับ เอซี มิลาน
- ราฟาเมล ฟัลเกา (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2014-2015 และ เชลซี 2015-2016)
ฟัลเกา ช่วงพีกๆ ถือเป็นดาวยิงระดับท็อปของโลก แต่กลับจอดสนิทกับโอกาสทั้งสองครั้งที่ได้มาโลดแล่นในเวที พรีเมียร์ลีก โดยตอนเป็นนักเตะของ อาแอส โมนาโก นั้น ฟัลเกา ถูก แมนฯ ยูไนเต็ด ยืมตัวมาใช้งานในซีซั่น 2014/15 และทำได้แค่ 4 ประตู จากการลงเล่นเกมลีก 26 นัด และซีซั่นต่อมาโดน เชลซี ยืมตัวมาใช้งาน และผลงานของเจ้าตัวคือ ทำได้แค่ประตูเดียว จากการลงเล่นเกมลีก 10 นัด
- โรเบร์โต้ โซลดาโด้ (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 2013-2015)
โซลดาโด้ ย้ายมาร่วมก๊วน "ไก่เดือยทอง" ในฐานะดาวยิงระดับท็อปของศึก ลา ลีกา สเปน (ยิงให้ บาเลนเซีย 30 ประตู จาก 46 นัด ในฤดูกาล 2012/13) แต่ก็เป็นอีกหนึ่งแข้งดาวดังที่เอาชื่อเสียงของตัวเองมาทิ้งบนแผ่นดินอังกฤษ เพราะสองฤดูกาลกับ สเปอร์ส นั้น เจ้าตัวทำได้แค่ 7 ประตู จากการลงเล่นเกมลีก 52 นัด ก่อนคัมแบ็กสู่เวที ลา ลีกา ด้วยการย้ายร่วมทีม บียาร์เรอัล
- อเล็กซานเดร ปาโต้ (เชลซี 2016)
ถูกตั้งความหวังไม่น้อยตอนย้ายมาจาก โครินเธียนส์ แบบสัญญายืมตัว ช่วงเดือนมกราคม ปี 2016 แต่ ปาโต้ ใช้เวลาส่วนใหญ่บนม้านั่งสำรอง และบทสรุปในสีเสื้อ "สิงห์บลูส์" ของเจ้าตัวคือ ลงเล่นแค่ 2 นัด ทำ 1 ประตู ซึ่งมาจากการยิงจุดโทษในเกมเจอกับ แอสตัน วิลล่า
- กอนซาโล่ อิกวาอิน (เชลซี 2019)
ยิงเป็นว่าเล่นตอนค้าแข้งกับ เรอัล มาดริด, นาโปลี รวมถึงช่วงแรกๆ กับ ยูเวนตุส ต้นสังกัดปัจจุบัน แต่ตอนย้ายมาเล่นให้ เชลซี แบบสัญญายืมตัว ช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล 2018/19 อิกวาอิน กลับทำผลงานได้น่าผิดหวัง เพราะทำได้แค่ 5 ประตู จากการลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก 14 นัด
- อัลบาโร่ โมราต้า (เชลซี 2017-ปัจจุบัน)
ใช่!!! นักเตะจากค่าย "สิงห์บลูส์" อีกแล้ว... ปัจจุบัน โมราต้า ยังคงเป็นนักเตะของ เชลซี อยู่ แต่ตอนนี้เล่นให้กับ แอตเลติโก มาดริด แบบสัญญายืมตัว โดย โมราต้า ถูกตั้งความหวังไว้สูงมาก ตอนย้ายมาจาก เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 65 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,535 ล้านบาท) เมื่อช่วงหน้าร้อน 3 ปีก่อน แต่ผลงานของเจ้าตัวกลับไม่แจ่มอย่างที่หวัง โดยฤดูกาล 2017/18 โมราต้า ทำประตูในลีกได้แค่ 11 ลูก จาก 31 นัด และฤดูกาลต่อมาทำได้แค่ 5 ลูก จาก 16 นัด ก่อนถูกปล่อยตัวให้ "ตราหมี" ยืมใช้งานกลางซีซั่นดังกล่าว และอยู่ยาวกับ แอต. มาดริด จนถึงตอนนี้
- เซอร์เก เรบรอฟ (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 2000-2004)
จับคู่กับ อันเดร เชฟเชนโก้ ถล่มประตูได้อย่างมากมายตอนอยู่กับ ดินาโม เคียฟ แต่ เรบรอฟ กลับไปไม่เป็นในการมาเทสต์แข้งในเวที พรีเมียร์ลีก เพราะเจ้าตัวทำประตูในเกมลีกได้แค่ 10 ลูก จาก 62 นัด ตลอดระยะเวลา 2 ซีซั่นที่สวมยูนิฟอร์ม "ไก่เดือยทอง" (ช่วงปี 2002-2004 ถูกปล่อยตัวให้ เฟเนร์บาห์เช่ ยืมใช้งาน) หลังจากนั้น เรบรอฟ ก็ถูกปล่อยตัวให้กับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่ตอนนั้นอยู่ในระดับ แชมเปี้ยนชิพ ซึ่งเจ้าตัวทำได้แค่ประตูเดียว จากการลงเล่นเกมลีก 27 นัด ก่อนหวนซบ ดินาโม เคียฟ ในปี 2005.... เรียกได้ว่า ขนาดเล่นในลีกรองของอังกฤษ ยังไปไม่รอดเลย
- Subinho -