เมื่อ บุนเดสลีกา รีสตาร์ทกลับมาแข่งขันกันแบบสนามปิด ตอนนี้ผ่านไปแล้วทั้งหมด 27 เกม น่าแปลกใจเหลือเกินที่มีแค่ 5 นัดที่เจ้าบ้านเป็นฝ่ายกุมชัยชนะ หรือคิดเป็นเพียง 19% เท่านั้น นั่นทำให้เกิดคำถามว่าการไร้ซึ่งแฟนบอลในสนามทำให้ทีมเจ้าบ้านไม่ได้เปรียบอีกต่อไปใช่หรือเปล่า ขณะเดียวกันพรีเมียร์ลีกก็ประกาศอย่างเป็นทางการออกมาแล้วว่าเตรียมจะคัมแบ็กในวันที่ 17 มิ.ย. นี้ น่าคิดว่าสโมสรลีกผู้ดีที่จะเล่นเป็นเจ้าบ้านจะเจอสถานการณ์เดียวกับบุนเดสลีกาหรือไม่
สัดส่วนที่เจ้าบ้านในลีกบุนเดสลีกาคว้าชัยก่อนหน้าที่จะมีการหยุดการแข่งขันมีถึง 43.3% แต่ทว่าพอเปลี่ยนเป็นแบบสนามปิด สัดส่วนนี้ลดลงมาถึง 25% เลยทีเดียว กลายเป็นตอนนี้ทีมเยือนมีเปอร์เซ็นต์มากกว่าแล้ว
เหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก ย้อนกลับไปสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งตอนนั้นลีกชั้นนำของยุโรปมีการแข่งขันแบบสนามปิดเหมือนกัน โดยทีมเจ้าบ้านซึ่งก่อนหน้านี้มีเปอร์เซ็นต์ชนะเฉลี่ยถึง 46% กลับลดลงมาเหลือ 36% ใน 191 แมตช์ที่ลงเล่นในสนามปิด
ตัดกลับมาที่พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ทีมเจ้าบ้านมีเปอร์เซ็นต์ชนะถึง 45% ด้านลีกแชมเปี้ยนชิพเจ้าบ้านชนะ 43%, ลีกวัน เจ้าบ้านชนะ 46% และลีกทู เจ้าบ้านชนะ 42% ตอนนี้มีเพียงแค่ลีกทูที่ตัดจบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนที่เหลือเตรียมจะกลับมาแข่งขันกันในเดือนหน้า
จากรูปด้านบนจะเห็นว่าบ๊วยของตารางในปัจจุบันอย่าง นอริช ซิตี้ เก็บแต้มจากการเล่นใน แคร์โรว โร้ด เฉลี่ยมากกว่า 1 แต้มต่อนัด แต่เมื่อเล่นนอกบ้านกลับทำแต้มเฉลี่ยแค่ 0.4 เท่านั้น
ขณะที่ แอสตัน วิลล่า รองบ๊วยของตารางยังถือว่ามีโอกาสรอดอยู่หากไม่ทำแต้มในบ้านตกหล่นแบบง่ายๆเพราะว่าพวกเขามีค่าเฉลี่ยเก็บแต้มในบ้าน 1.31 เลยทีเดียว ซึ่งดูดีกว่าคู่แข่งลุ้นหนีตกชั้นอย่าง บอร์นมัธ, วัตฟอร์ด และไบรท์ตัน
ในทางกลับกัน เซาธ์แฮมป์ตัน, เชลซี และวูล์ฟแฮมป์ตัน เป็นเพียงสามสโมสรที่มีค่าเฉลี่ยเก็บแต้มนอกบ้านดีกว่าในบ้าน
อย่างไรก็ตามความได้เปรียบของเจ้าบ้านอาจหมดไปเหมือนกับบุนเดสลีกาที่ผ่านมา ทีมที่มีเกมในบ้านเหลือมากกว่าจะเสียเปรียบเพราะขาดผู้เล่นคนที่ 12 ส่วนทีมที่เหลือเกมเยือนมากกว่ามีสิทธิ์ทำแต้มได้มากกว่า
แอสตัน วิลล่า และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่างมีเกมลีกในบ้านเหลือแค่ 6 นัดเท่านั้น ข้อมูลจากภาพด้านบนที่พวกเขาเก็บแต้มในบ้านได้เยอะอาจโดนผลกระทบทันที แต่ แมนฯซิตี้ อาจไม่มีปัญหามากนักเนื่องจากพวกเขายึดรองจ่าฝูงและมีแต้มห่างจากเลสเตอร์ 4 แต้ม
ทว่ามันอาจสำคัญต่อ แอสตัน วิลล่า รองบ๊วยซึ่งต้องลุ้นหนีตกชั้น และจะต้องขาดแฟนบอลในเกมกับทีมแข็งๆไม่ว่าจะเป็น เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด, เชลซี, วูล์สฟ์, แมนฯยูไนเต็ด, คริสตัล พาเลซ และอาร์เซน่อล
ความสำเร็จในบ้านของแอสตัน วิลล่าส่วนใหญ่อาจเกิดมาจากการสนับสนุนจากแฟนบอลบนอัฒจันทร์เฉลี่ยต่อเกม 41,661 คน ซึ่งอยู่สูงเป็นอันดับที่ 8 ในลีกมากกว่า เชลซี และเอฟเวอร์ตัน เสียอีก
ดังนั้นผลการแข่งขันของบุนเดสลีกาอาจบ่งชี้ให้เห็นถึงความได้เปรียบของเจ้าบ้านที่หายไปซึ่งมันสำคัญมากกับทีมในท้ายตาราง อย่างเช่น ไบรท์ตัน ซึ่งจะต้องรับการมาเยือนของทั้งสองทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์, ลิเวอร์พูล, อาร์เซน่อล และนิวคาสเซิ่ล ต่อหน้าสนามที่ว่างเปล่า
"Zvo"