แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หวังจะแก้ตัวจากนัดเปิดฤดูกาลที่พ่ายแพ้ต่อ คริสตัล พาเลซ คาบ้าน โดยเย็นวันนี้ “ปีศาจแดง” จะต้องบุกเยือนถิ่น ไบรท์ตัน ทีมที่กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มฮอต มีประเด็นที่น่าสนใจก่อนเกมทั้งเรื่องการจัดตัวของ โซลชา รวมถึงสถิติการพบกัน เราหยิบมาวิเคราะห์กันทีละข้อเลย
1.ไบยี่แทนเลิฟ?
วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักอีกครั้งหลังมีส่วนทำเสียประตูถึง 3 ลูกในเกมเปิดฤดูกาล ที่ต้องใช้คำว่า “อีกครั้ง” เพราะแฟนผีน่าจะรู้ดีว่าฟอร์มที่ผ่านมาของเขาเป็นอย่างไร แม้ว่าเจ้าตัวจะยืนระยะเป็นกองหลังตัวหลักคู่กับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เมื่อฤดูกาลที่แล้วแต่ระหว่างทางเขายังก่อความผิดพลาดให้เห็นเป็นระยะๆ นั่นทำให้ไม่แปลกใจเมื่อเขาโชว์ฟอร์มย่ำแย่ในนัดเจอคริสตัล พาเลซ แฟนผีแดงเริ่มหมดความอดทนกับกองหลังรายนี้แล้ว
ในตลาดซัมเมอร์นี้ “ผีแดง” มีข่าวสนใจเซนเตอร์แบ็กอยู่หลายคนแต่จนแล้วจนรอดยังคงไม่ได้กองหลังสักคนและมีแววว่าจะไม่ได้เสริมทัพในตำแหน่งนี้ โซลชา จำเป็นต้องใช้กองหลังชุดเดิมต่อไปในฤดูกาลนี้ ความจริงแล้วเซนเตอร์แบ็กของทีมมีอยู่หลายคนเดียวแต่นักเตะที่ใช้งานได้ต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพมีไม่มากนัก ในรายของ ฟิล โจนส์ และ อั๊กเซล ตวนเซเบ้ ยังคงรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ ขณะที่ คริส สมอลลิ่ง ส่อแววจะย้ายทีมถาวร
เอริก ไบยี่ เป็นอีกหนึ่งกองหลังมีคุณภาพแต่เจอปัญหาอาการบาดเจ็บบ่อยครั้งจนพัฒนาฟอร์มต่อเนื่องไม่ได้ อย่างไรก็ตามเมื่อเขาฟิตลงสนามยังถือว่าไว้ใจได้เสมอ ไบยี่ เพิ่งได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในเกม คาราบาว คัพ กลางสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมกับทำผลงานได้ดีจนติดทีมยอดเยี่ยมของเว็บไซต์ whoscored แฟนผีแดงจึงเชียร์เต็มที่ให้เขาลงเล่นแทน ลินเดอเลิฟ ในคืนนี้
ก่อนเกม โซลชา โดนนักข่าวยิงคำถามเรื่องฟอร์มของไบยี่ซึ่งกุนซือ ผีแดง ก็ตอบว่า “ฤดูกาลที่แล้วเขาพิสูจน์ให้เราเห็นถึงการป้องกันเกมรับที่ยอดเยี่ยม ขณะที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วพวกเราเสียประตูง่ายดายเหลือเกิน แต่ผมคิดว่าสถิติเกมรับของเราเมื่อซีซั่นที่แล้วโชว์ให้เห็นว่า เอริก และ แฮร์รี่ จับคู่กันแล้วดีแค่ไหน” จากคำพูดนี้มีโอกาสที่เราจะเห็นไบยี่ออกสตาร์ทตัวจริงอยู่เหมือนกัน ต้องรอดูกันว่าเซนเตอร์แบ็กคืนนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่
2.ใครยืนคู่ป็อกบา
กองกลางเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่เราได้เห็นจาก “ปีศาจแดง” เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว การจับคู่ระหว่าง ปอล ป็อกบา และ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ยังไม่ลงตัวมากนัก ปัจจัยอย่างหนึ่งที่ส่งผลต่อฟอร์มการเล่นนัดแรกคือความฟิตซึ่ง ป็อกบา เพิ่งหายจากการป่วยโควิด-19อาจพอเข้าใจได้ในระดับหนึ่งกับฟอร์มที่ไม่ได้นักในเกม พาเลซ
แต่ในรายของ แม็คโทมิเนย์ นั้นเรื่องความฟิตไม่ใช่ปัญหาแต่ที่เป็นปัญหาคือเรื่องประสบการณ์และความนิ่งของเจ้าตัว แม้จะทำหน้าที่เกมรับได้ดีอยู่บ้างแต่เรื่องการคุมจังหวะเกมแดนกลางยังห่างชั้นจากรุ่นพี่อย่าง เนมานย่า มาติช ค่อนข้างมาก เป็นเหตุผลว่าทำไม “ผีแดง” ครองบอลบุกไม่ได้ต่อเนื่อง มีโอกาสที่ โซลชา จะดร็อปเขานั่งสำรองในคืนนี้
คำถามคือใครจะเล่นคู่ป็อกบา? หากยึดจากฤดูกาลที่แล้ว นักเตะจับคู่ด้วยกันมากที่สุดคือ เนมานย่า มาติช ซึ่งต้องเช็กความฟิตของเขาอีกที แต่ยังมีอีกกระแสหนึ่งเชื่อว่า ฟาน เดอ เบ็ค จะลงตัวจริงในคืนนี้ อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องที่หลายคนถกกันมากว่าการใช้กองกลาง 3 คนอย่าง บรูโน่, ป็อกบา, ฟาน เดอ เบ็ค จะเล่นเข้าขากันหรือไม่? โดยเฉพาะในรายของ ฟาน เดอ เบ็ค ที่อาจต้องเล่นเกมรับมากขึ้นซึ่งมันจะเป็นการทำเสียของหรือเปล่า? แต่ก่อนเกมโซลชาให้สัมภาษณ์ว่าเขาเชื่อมั่นว่า 3 คนนี้จะเล่นร่วมกันได้แน่นอน แฟนผีล่ะอยากเห็นกองกลางชุดนี้ไหม?
3.กรีนวู้ดทวงตำแหน่ง
เมสัน กรีนวู้ด พลาดการออกสตาร์ทตัวจริงในนัดแรกของฤดูกาล อาจะเป็นเพราะโซลชา อาจจะมองเรื่องสภาพความฟิตรวมถึงการลดความกดดันเจ้าหนูวัย 18 ปีรายนี้เนื่องจากโดนวิพากษ์วิจารณ์จากเหตุการณ์ฉาวแหกกฎล็อกดาวน์ช่วงโปรแกรมทีมชาติรวมถึงการโดนแฉภาพสูดก๊าซหัวเราะด้วย
อย่างไรก็ตามการใช้ แดเนี่ยล เจมส์ ออกสตาร์ทตัวจริงทางปีกขวายังไม่เวิร์คเช่นเดิมหลังทำผลงานไม่ดีนักในนัดเปิดฤดูกาล ทำให้คาดว่า เมสัน กรีนวู้ด จะกลับมาทวงคืนตำแหน่งในคืนนี้ซึ่งล่าสุดเขาเพิ่งลงสนามมาเป็นตัวสำรองในเกมกับ ลูตัน ทาวน์ พร้อมทำหนึ่งประตูหนึ่งแอสซิสต์ด้วย ตราบใดที่ “ผีแดง” ยังไม่สามารถกระชากตัว เจดอน ซานโช่ หรือเสริมทัพในตำแหน่งปีกขวาไม่ได้ ยังไงตัวเลือกอันดับหนึ่งทางปีกขวาตอนนี้ต้องเป็น กรีนวู้ด เท่านั้น
4.นางนวลฮอต-จับตาแลมพ์ตีย์
แม้ ไบรท์ตัน เปิดฤดูกาลด้วยความพ่ายแพ้ต่อ เชลซี คาบ้าน 3-1 แต่ถ้าใครได้ดูในเกมนั้นต้องบอกว่าทีม “นกนางนวล” เล่นดีกว่าอย่างชัดเจนแต่ปิดสกอร์ไม่ได้เท่านั้น และไบรท์ตัน ก็มาต่อยอดฟอร์มการเล่นที่ดีด้วยการบุกถล่ม นิวคาสเซิ่ล ถึง 3-0 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นอกจากนี้ในบอลถ้วยคาราบาว คัพ ไบรท์ตัน ยังยำใหญ่ใส่ พอร์ธสมัธ 4-0 และบุกสอย เปรสตัน อีก 2-0 ทำให้ตอนนี้พวกเขาคว้าชัยในทุกรายการ 3 นัดติดต่อกันแล้วและสิ่งสำคัญที่สุดคือพวกเขาเก็บคลีนชีทได้ 3 นัดเลย เป็นการออกสตาร์ทฤดูกาลที่ดีสำหรับทีมของ เกรแฮม พ็อตเตอร์
นีล โมเปย์ กองหน้าของทีมกำลังอยู่ในช่วงมั่นใจหลังเหมาสองประตูใส่ นิวคาสเซิ่ล เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่คนที่น่าจับตามองเหลือเกินคือ ทาริค แลมพ์ตีย์ ซึ่งเป็นอดีตเด็กปั้นของเชลซี เจ้าหนูวัย 18 ปีมีความเร็วและความคล่องตัวมาก เคยเผาเครื่อง มาร์กอส อลอนโซ่ ยับเยินและยังทำแอสซิสต์ในเกมพบเชลซีด้วย มาดูกันว่าคืนนี้เขาจะเล่นงาน ลุค ชอว์ จนหัวปั่นหรือไม่
5.ไบรท์ตันข่ม
ปิดท้ายด้วยสถิติที่น่าสนใจของทั้งสองทีม โดยฝั่ง ไบรท์ตัน สามารถเอาชนะ “ปีศาจแดง” ได้ 3 ใน 4 เกมลีกหลังสุดที่บ้านของตัวเองซึ่งครั้งเดียวที่ไม่ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด เกิดขึ้นเมื่อฤดูกาลที่แล้ว (แพ้ 3-0) นอกจากนี้ “นกนางนาวล” มีสถิติไม่เคยแพ้ในบ้าน 2 เกมแรกของฤดูกาลในลีกสูงสุดด้วย (นัดแรกฤดูกาลนี้แพ้ เชลซี 3-1) ในทางกลับกันยังมีลุ้นทำสถิติเก็บชัย 2 จาก 3 เกมแรกได้เป็นครั้งแรกในลีกสูงสุด
ฝั่ง แมนฯ ยูไนเต็ด มีสถิติที่ไม่ดีในเกมเปิดฤดูกาลไปแล้วนั่นคือการพ่ายแพ้นัดแรกของซีซั่นที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในรอบ 6 ปี แต่พวกเขาไม่ได้พ่ายแพ้สองนัดแรกมานับตั้งแต่ฤดูกาล 1992-93 เลยทีเดียว (แพ้ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 2-1, แพ้ เอฟเวอร์ตัน 3-0) รอชมกันว่าสถิติจะยืดต่อไปหรือไม่
"Zvo"