พรีเมียร์ลีก แมตช์เดย์ที่ 3 มีคู่บิ๊กแมตช์ให้แฟนๆ ได้รับชมถึง 2 คู่ โดยคู่แรกในคืนวันอาทิตย์ แมนฯ ซิตี้ พบ เลสเตอร์ และคืนวันจันทร์ ลิเวอร์พูล พบ อาร์เซน่อล
ส่วนคู่อื่นๆ ก็ยังมีให้ได้ติดตาม ไปพบกับ 6 ประเด็นร้อนของเกมเหล่านี้กันได้เลย
"ไบรท์ตัน-แมนยู"
ไบรท์ตัน มีสถิติที่ดีเหลือเกินเมื่อเจอกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ใน เอเม็กซ์ สเตเดี้ยม เมื่อ 4 นัดหลังสุดพวกเขาเอาชนะ 'ปีศาจแดง' ได้ถึง 3 นัด ขณะที่ แมนยู เอง ต้องกู้ฟอร์มกลับมาหลังพ่ายเมื่อเกมก่อน และต้องพยายามเลี่ยงที่จะไม่แพ้ 2 เกมแรกของซีซั่น เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 1992/93
ปาสกาล กรอสส์ เป็นแข้ง 'เดอะ ซีกัลส์' ที่ทำผลงานได้ดียามเจอ 'ปีศาจแดง' เมื่อเจ้าตัวทำประตูได้ถึง 3 ลูกซึ่ง 2 จาก 3 ลูกนั้นเป็นประตูชัยให้ทีมเอาชนะ แมนยูได้ นอกจากนี้ กรอสส์ ยังจัดอีก 1 แอสซิสต์ใส่ยอดทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์ จากการเจอกัน 4 นัดหลังสุด
เกมลีก 3 นัดหลังสุดที่เจอกับ ไบรท์ตันฯ นั้น แมนฯ ยูไนเต็ด เก็บชัยชนะได้ทั้งหมด โดยในบรรดา 19 ทีมในศึก พรีเมียร์ลีก ประจำฤดูกาล 2020-21 ไบรท์ตันฯ คือทีมที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เก็บชัยชนะได้ติดต่อกันมากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจาก เลสเตอร์ เพียงแค่ทีมเดียว (แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ เลสเตอร์ ในลีกมา 4 นัดติด)
ลูกทีมของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา มีผลงานเกมเยือนสุดสวยหรู หลังจาก 4 เกมเยือนหลังสุดมีสกอร์รวมถึง 10-0 อีกทั้ง แมนฯ ยูไนเต็ด ยังเป็นทีมสุดท้ายของลีกสูงสุดที่เก็บชัยชนะนัดเยือน 5 นัดติดต่อกันโดยที่ไม่เสียประตูเลย ซึ่งทำได้เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2011
"คริสตัล พาเลซ-เอฟเวอร์ตัน"
คริสตัล พาเลซ เพิ่งเปิดตัวเกมลีกด้วยการชนะ 2 นัดติดเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร และนัดนี้พวกเขาก็หวังจะคว้าชัยเหนือ เอฟเวอร์ตัน ให้ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2014
ส่วนทาง เอฟเวอร์ตัน ก็หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะคว้าชัยในลีก 3 นัดแรกของฤดูกาล เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 1993/94
วิลฟรีด ซาฮา ซึ่งซัดไปแล้ว 3 ประตูในซีซั่นนี้ โดย 2 ลูกเป็นประตูตัดสินเกมที่พาทีมคว้าชัยชนะ ซึ่งจำนวนนี้มันน้อยกว่าที่เขาทำได้ตลอด 38 เกมในฤดูกาล 2019/20
3 ครั้งหลังสุดที่คู่นี้เตะเกมลีกกันที่ เซลเฮิร์สท์ พาร์ค นั้น สกอร์จบลงที่การเสมอกันทั้งหมด โดยในจำนวนนั้นเป็นการเสมอกัน 0-0 แบบ 2 นัดติดในการดวลกัน 2 ครั้งหลังสุด
หลังจากบุกเอาชนะ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ในเกมแรกของฤดูกาล เอฟเวอร์ตัน ก็มองหาชัยชนะเกมลีกเหนือทีมจากกรุงลอนดอน 2 เกมติด นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปี 2015
หาก โดมินิค คัลเวิร์ต-เลวิน ทำประตูได้อีกในเกมนี้จะทำให้เจ้าตัวเป็นผู้เล่น 'ทอฟฟี่สีน้ำเงิน' คนแรกที่ยิงประตูได้ติดต่อกันใน 3 เกมแรกของซีซั่น นับตั้งแต่ที่ สตีเว่น เนย์สมิธ ทำไว้เมื่อฤดูกาล 2014/15
"เวสต์บรอมวิช-เชลซี"
6 เกมก่อนหน้านี้ในการเจอกับ เชลซี ของ เวสบรอมวิชฯ พวกเขาไม่เคยเอาชนะได้เลย ซึ่งครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2015 เท่านั้นไม่พอ เวสต์บรอม แพ้ต่อ เชลซี บนเวที พรีเมียร์ลีก ถึง 18 เกม นับเป็นสถิติที่แพ้จำนวนครั้งมากที่สุดต่อทีมฝ่ายตรงข้าม อีกทั้งยังแพ้ต่อ 'สิงห์บลูส์' ในลีกมาแล้ว 4 เกมติด โดยที่ไม่สามารถทำประตูได้เลยสักนัด
ส่วนทางด้าน แฟร้งค์ แลมพาร์ด กุนซือของ เชลซี ในฐานะผู้จัดการทีม เขามีสถิติ 100% ในการเจอกับ เดอะ แบ็กกี้ส์ โดยเอาชนะได้ทั้งสองนัดตอนที่เขาคุม ดาร์บี้ เคาน์ตี้ ในลีก แชมเปี้ยนชิพ
นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2019 มาเธอัส เปเรยร่า มิดฟิลด์พันธุ์แซมบ้าของ เวสต์บรอมวิช ที่ทำไปแล้ว 1 ประตูกับ 1 แอสซิสต์ในลีกฤดูกาลนี้ เป็นนักเตะที่มีส่วนร่วมกับประตูของทีมถึง 26 ลูก
ปัญหาของ เชลซี คือการเสียประตูนอกบ้าน เมื่อพวกเขาเพิ่งเก็บคลีนชีตได้แค่ครั้งเดียวจากการออกไปเยือนเกมลีก 20 นัดหลังสุด ซึ่งครั้งสุดท้ายที่ทำได้คือการออกไปเสมอกับ เลสเตอร์ ซิตี้ 0-0 เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2019
"สเปอร์ส-นิวคาสเซิล"
ทั้ง สเปอร์ส และ นิวคาสเซิล ผลงานยังไม่คงเส้นคงวา หลังจากแพ้-ชนะ อย่างละนัดใน 2 เกมแรกของซีซั่น
นับตั้งแต่ฤดูกาล 2015/16 แฮร์รี่ เคน และ ซน ฮึง-มิน คือคู่หู่ที่ช่วยกันทำประตูให้แก่กันถึง 24 ลูก เหนือกว่าคู่หูคู่อื่นๆ ในเวที พรีเมียร์ลีก
ในการเจอกันกับ นิวคาสเซิล โชเซ่ มูรินโญ่ เอาชนะ สาลิกาดง ได้ทั้งหมดตลอด 8 เกมที่เล่นในบ้านทุกรายการ ซึ่งเป็นสถิติ 100% ทีมเดียวที่เขาทำได้
คัลลั่ม วิลสัน ทำประตูใส่ สเปอร์ส ไม่ได้มาแล้ว 509 นาที ซึ่งมีแค่ คริสตัล พาเลซ ทีมเดียวเท่านั้นที่เจ้าตัวทำประตูไม่ได้นานกว่า(532 นาที)
สเปอร์ส คือทีมที่ นิวคาสเซิ่ล บุกไปเก็บชัยชนะได้เยอะที่สุดในการเล่นนัดเยือนของเกมระดับ พรีเมียร์ลีก ด้วยจำนวน 10 นัด โดยที่ 'สาลิกาดง' เก็บ 3 แต้มได้ถึง 4 จาก 6 ครั้งสุดที่ไปเยือน "ไก่เดือยทอง" ด้วย
"แมนฯ ซิตี้-เลสเตอร์"
เลสเตอร์ มีลุ้นทำสถิติออกสตาร์ทเกมพรีเมียร์ลีก ดีที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร แต่การบุกไปเยือน เอติฮัด สเตเดี้ยม 4 เกมหลังสุดพวกเขาแพ้รวด
แมนฯ ซิตี้ เป็นทีมที่ขึ้นนำคู่แข่งอย่างน้อย 2 ประตูตอนจบครึ่งแรกตลอด 6 เกมหลังสุดในศึก พรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นสถิติที่ทำได้ติดต่อกันนานที่สุดใน พรีเมียร์ลีก
กาเบรียล เชซุส ยิงได้ถึง 4 ประตูจาก 5 เกมลีกในการเจอกับ 'เดอะ ฟ็อกซ์' ส่วน เจมี่ วาร์ดี้ ซัดใส่ แมนฯ ซิตี้ ได้ถึง 5 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์ ในการเจอกัน 8 เกมลีกหลังสุด
"ลิเวอร์พูล-อาร์เซน่อล"
ทั้ง ลิเวอร์พูล และ อาร์เซน่อล ต่างเอาชนะได้ 2 เกมติด ซึ่งฝ่ายแรกเอาชนะได้ตลอด 4 เกมในการเล่นที่ แอนฟิลด์
เวลาเจอกับทีมที่เป็นแชมป์เก่า อาร์เซน่อล และ ลิเวอร์พูล ต่างก็เคยชนะแชมป์เก่าได้ 16 ครั้ง โดยมีเพียง 3 โปรแกรมเท่านั้นที่ทำให้แชมป์เก่าพ่ายแพ้ได้มากกว่าการเจอกับ 2 ทีมนี้
ลิเวอร์พูล ไม่แพ้ใครในบ้านตัวเองมาแล้วถึง 60 เกมใน พรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2017
หาก อาร์เซน่อล บุกชนะ ลิเวอร์พูล ได้ในเกมนี้จะทำให้พวกเขาคว้าชัยชนะ 3 เกมแรกของฤดูกาลใน พรีเมียร์ลีก เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ซีซั่น 2004/05 อีกทั้งยังจะทำให้ มิเกล อาร์เตต้า เป็นผู้จัดการทีม'เดอะ กันเนอร์ส' คนแรกที่เอาชนะที่ แอนฟิลด์ ได้ในเกมแรกที่ทำหน้าที่ผู้จัดการทีม นับตั้งแต่ที่ ทอม วิทเทคเกอร์ ทำได้เมื่อปี 1947