จัดอันดับ 10 นักเตะในตำแหน่งเซ็นเตอร์ที่ ลิเวอร์พูล ดึงตัวมาเสริมทัพนับัตั้งแต่ที่ เจมี่ คาร์ราเกอร์ ตำนานกองหลังทีมชาติอังกฤษประกาศแขวนสตั๊ตไปตั้งแแต่ปี 2013
นับตั้งแต่ที่ เจมี่ คาร์ราเกอร์ ตำนานกองหลังของทีมประกาศแขวนสตั๊ตไปตั้งแต่ปี 2013 ก็ทำให้ "หงส์แดง" เสริมทัพในตำแหน่งเซ้นเอตร์เข้ามาหลายรายเพื่ออุดช่องโหว่ที่ คาร์ร่า ทิ้งเอาไว้ ซึ่งมีทั้งย้ายมาแล้วทำผลงานได้ดี และน่าผิดหวัง
วันนี้เราจัดอันดับ 10 กองหลังที่ ลิเวอร์พูล เซ็นมาร่วมทีมนับตั้งแต่ คาร์ร่า ปิดฉากอาชีพการเล่นไป
10.ติอาโก้ อิลอรี่
แข้งชาวโปรตุเกสย้ายจาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน ทีมดังในลีกโปรตุเกส มาเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 3.5 ล้านปอนด์ เมื่อเดือนกันยายน ปี 2013 แต่สุดท้ายเขาไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองได้ ก่อนจะถูกปล่อยให้หลายสโมสรยืมใช้งานทั้ง กรานาด้า, บอร์กโดซ์ และ แอสตัน วิลล่า
หลังจากเจ้าตัวย้ายกลับมาเล่นให้ถิ่นแอนฟิลด์อีกครั้งก็ยังไม่สามารถสอดแทรกสู่ทีมชุดใหญ่ได้ โดยได้รับโอกาสลงเล่นเพียง 3 เกมเท่านั้น
9.เซปป์ ฟาน เดน เบิร์ก
ดาวรุ่งชาวดัตช์ย้ายจาก พีอีซี ซโวลล์ มาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัวในเบื้องต้น 1.3 ล้านปอนด์ ตั้งแต่ซีซั่นที่แล้ว และเคยได้รับโอกาสลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่มาแล้วในศึกเอฟเอ คัพ และยังไม่มีโอกาสได้สัมผัสกับเกมในพรีเมียร์ลีก
แต่ถึงกระนั้นด้วยความที่เจ้าตัวยังอยู่ในวัยเพียง 18 ปี ทำให้เขายังมีเวลาอีกมากในการพัฒนาฝีเท้าในการก้าวขึ้นมาเป้นกำลังสำคัญกัยทีมในได้อนาคต
8.สตีเว่น คอลเกอร์
ปราการหลังชาวอังกฤษถูกเซ็นเข้ามาในฐานะเซนเตอร์แบ็กสำรองด้วยสัญญายืมตัวจากควีนส์ ปาร์ค เรนเจอร์ส แต่ 3 จาก 4 เกมที่ลงเล่นภายใต้ยูนิฟอร์ม "หงส์แดง" เขากลับถูกใช้งานเป็นกองหน้าจำเป็นซะงั้น ซึ่งไม่สามารถช่วยทีมได้เท่าที่ควร และได้ลงเล่นให้ทีมเพียงแค่ครึ่งฤดูกาล
7.มามาดู ซาโก้
หลังจาก คาร์ราเกอร์ ประกาศแขวนสตั๊ตไปในปี 2013 ลิเวอร์พูล ก็จัดการเซ็นสัญญากับ มามาดู ซาโก้ จาก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง มาร่วมทีมทันทีด้วยค่าตัว 18 ล้านปอนด์
การมาของ ซาโก้ นั้นเขามาทำผลงานได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ด้วยความที่เขาประสบปัญหาอาการบาดเจ็บเล่นงานอยู่บ่อยครั้ง รวมถึงถูกแบนจากยูฟ่าเนื่องจากตรวจพบสารกระตุ้น และถูกปล่อยให้ คริสตัล พาเลซ ยืมใช้งาน ก่อนจะขายขาดในท้ายที่สุด
6.โคโล่ ตูเร่
ลิเวอร์พูลคว้าตัว ตูเร่ คนพี่มาจาก แมนฯซิตี้ เมื่อปี 2013 โดยเซ็นสัญญากันเป็นระยะเวลาสองปี พร้อมกับสวมเสื้อหมายเลข 4 โดยมีดีกรีเป็นถึงแชมป์พรีเมียร์ลีกกับทั้งอาร์เซน่อล และเรือใบสีฟ้า
เขาเป็นหนึ่งในนักเตะชุดไร้พ่ายของอาร์เซน่อล เมื่อซีซั่น 2003/04 พร้อมกับช่วยให้แมนฯซิตี้คว้าแชมป์ลีกเป็นครั้งแรกในรอบ 44 ปี ตูเร่ เข้ามายกระดับเกมรับของลิเวอร์พูลในช่วงซีซั่น 2013/14 และพาทีมจบรองแชมป์ลีก โดยมีแต้มห่างจากทีมแชมเปี้ยนส์อย่างแมนฯซิตี้ เพียง 2 คะแนน
ตูเร่ ลงสนามให้กับ "เร้ด แมชชีน" ไปทั้งสิ้น 36 นัด แม้เขาจะอยู่กับทีมเพียงไม่กี่ปีแต่ด้วยผลงานของเจ้าตัวก็สามารถกลายเป็นหนึ่งในขวัญใจของ "เดอะ ค็อป"
5.รักนาร์ คลาวาน
ปราการหลังทีมชาติเอสโตเนียย้ายจาก เอาส์บวร์ก มาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ในปี 2016 ด้วยค่าตัว 4.2 ล้านปอนด์ แม้ผลงานและฟอร์มโดยรวมอาจไม่ได้โดดเด่น แต่เจ้าตัวก็ลงเล่นให้ ลิเวอร์พูล ไปถึง 53 นัด ทำได้ 2 ประตู ตลอดระยะเวลา 2 ฤดูกาลในถิ่น แอนฟิลด์ ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ กายารี่ ในปี 2018
4.โฌแอล มาติป
นับตั้งแต่ที่ดาวเตะชาวแคเมอรูนย้ายมาจาก ชาลเก้ แบบไร้ค่าตัวในปี 2016 ก็ทำให้เขากลายเป้นอีกหนึ่งการเซ็นสัญญาที่คุ้มค่าของ ลิเวอร์พูล หลังทำผลงานได้น่าประทับใจ และแม้ว่าเจ้าตัวอาจมีปัญหาบาดเจ็บรบกวนเป็นระยะๆ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าดาวเตะวัย 29 ปี มีส่วนสำคัญไม่น้อยกับความสำเร็จของ ลิเวอร์พูล ตลอดช่วง 2 ซีซั่นที่ผ่านมา
3.โจ โกเมซ
โกเมซ ย้ายมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ในยุคของกุนซือ เบรนแดน รอดเจอร์ส ตั้งแต่ปี 2015 โดยย้ายมาในฐานะแข้งดาวรุ่งจาก ชาร์ลตัน แอธเลติก ด้วยค่าตัวเพียง 3.5 ล้านปอนด์เท่านั้น
ตลอด 5 ปีในถิ่นแอลฟิลด์ปราการหลังชาวอังกฤษค่อยๆพัฒนาฝีเท้าจนกลายเป็นกำลังสำคัญของทีมในยุคปัจจุบันจับคู่กับ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ได้อย่างแข็งแกร่งสุดๆ พร้อมมีส่วนสำคัญกับความสำเร็จที่ทีมทำได้
2.เดยัน ลอฟเรน
ลอฟเรน ย้ายมาจาก เซาธ์แฮมป์ตัน สู่ เมอร์ซี่ย์ไซด์ เมื่อปี 2014 และถือเแนกำลังสำคัญของทีมตลอดหลายปี ช่วยทีมประสบความสำเร็จมากมายทั้งได้แชมป์ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ, ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ และแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลล่าสุดด้วย ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ในรัสเซีย เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา
1.เฟอร์จิล ฟาน ไดค์
ลิเวอร์พูล จัดการทุ่มเงินสูงถึง 75 ล้านปอนด์ ดึงตัวปราการหลังชาวดัตช์มาจาก เซาธ์แฮมป์ตัน ในปี 2018 ซึ่งตอนแรกหลายๆ คนมองว่า ดีลของ ฟาน ไดค์ เป็นการลงทุนที่ฟุ่มเฟือย
แต่ผลงานตลอดช่วงที่ผ่านมา รวมถึงความสำเร็จแบบต่อเนื่องของ ลิเวอร์พูล ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขากลายเป็นหนึ่งในดีลที่ยอดเยี่ยมที่สุดของสโมสร ขณะที่ ปราการหลังชาวดัตช์วัย 29 ปี ก็ได้รับการซูฮกให้เป็นสุดยอดเซนเตอร์แบ็กคนหนึ่งของโลกลูกหนังยุคนี้